7
สายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกที่สวยที่สุดในโลก
1.
หมาจิ้งจอกเฟนเนก ( Fennec Fox )
หมาจิ้งจอกเฟนเนก (Fennec fox) หรือ หมาจิ้งจอกทะเลทราย (Desert fox) ในวงศ์สุนัขเป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็กที่สุดในโลก
เพราะเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 1.75 กิโลกรัม (ใกล้เคียงกับชิวาวาเลยนะ >,<) เฟนเนก มีขนสีน้ำตาลเหลืองตลอดทั้งตัว ดวงตาสีดำ
มีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนคือ ใบหูที่ยาวมากๆ! บางตัวอาจยาวได้ถึง 15
เซนติเมตรเลยทีเดียว
หมาจิ้งจอกเฟนเนกมีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา
โดยอาศัยอยู่ในทะเลทราย มีพฤติกรรมรวมกันเป็นฝูงขนาดเล็ก หากินในเวลากลางคืน
โดยมีอาหารหลักคือ แมลงชนิดต่าง ๆ
ด้วยการขุดคุ้ยจากการฟังเสียงจากใบหูที่มีขนาดใหญ่
นอกจากนั้นแล้วยังสามารถกินสัตว์ที่มีขนาดเล็ก, ไข่นก
และผลไม้ แต่ก็ยังตกเป็นเหยื่อของสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าได้เช่นกัน
แต่ด้วยสภาพร่างกายที่เหมาะกับการอาศัยอยู่ในทะเลทราย ทำให้สามารถเอาตัวรอดได้ดี ขนที่อุ้งเท้าของ เฟนเนก
จะหนามีไว้ใช้สำหรับเดินบนพื้นทรายที่ร้อนระอุได้
ขนสีน้ำตาลเหมือนสีของทรายของช่วยให้อำพรางตัวได้ในทะเลทราย
อีกทั้งขนทำหน้าที่สะท้อนความร้อนจากแสงแดดในเวลากลางวัน
ส่วนตอนกลางคืนก็ทำหน้าที่สะสมความอบอุ่นไว้เพื่อต่อสู้กับความหนาวเย็น
เนื่องจากเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคึน ขยายพันธุ์ด้วยการตั้งท้องนานครั้งละ
2เดือน เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 9 เดือน โดยจะตกลูกปีละครั้ง
เป็นสัตว์ที่มีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิต ตัวผู้จะดุร้ายและหวงคู่
อีกทั้งทำหน้าที่คอยหาอาหารให้ตัวเมียตลอดเวลาช่วงที่ตั้งท้องและให้นม
ตกลูกครั้งละ 2-4 ตัว
ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารัก
และมีขนาดเล็ก จึงทำให้หมาจิ้งจอกเฟนเนกกลายเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดหนึ่งของมนุษย์
เช่นเดียวกับ สัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลินชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นฉายาของทีมฟุตบอลทีมชาติแอลจีเรียอีกด้วย
โดยเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Les Fennecs หมายถึง
“หมาจิ้งจอกทะเลทราย”
2. หมาจิ้งจอกแดง
(
Red Fox )
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหมาทั่วไปแต่มีขนาดเล็กกว่า
ขนตามลำตัว มีสีเทาแดงหรือสีน้ำตาลแดง บางตัวอาจมีสีน้ำตาลส้ม
สีขนบริเวณปลายหูและขามีสีดำ สีขนอาจมีเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ กล่าวคือ
สีขนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงในช่วงที่มีอากาศมีความชื้นสูง
พบทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ,
ทวีปยุโรป, ตะวันออกกลาง,
ปากีสถาน ภาคเหนือของอินเดีย, เนปาล,
ภูฏาน, ภาคเหนือของพม่า,
จีน, ภาคเหนือของลาวและเวียดนาม
หมาจิ้งจอกแดง
สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ทำให้อาศัยอยู่ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ นอกจากนี้จากการศึกษานานกว่า 40 ปี
ของนักวิจัยพบว่า หมาจิ้งจอกแดงสามารถส่งเสียงร้องได้หลากหลายมากถึง 40 เสียง
สำหรับการสื่อสารกันเอง, การหาคู่
หรือการสื่อสารกันเฉพาะในฝูงหรือครอบครัว
หมาจิ้งจอกแดง
นับเป็นหมาจิ้งจอกชนิดที่มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางที่สุด
และนับเป็นต้นแบบของหมาจิ้งจอกทั้งหมด
ดังนั้นจึงปรากฏในวัฒนธรรมและความเชื่อของชนชาติต่าง ๆ มาแต่โบราณ โดยชาวตะวันตก
หมาจิ้งจอกจะเป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์ และปรากฏในนิทานพื้นบ้าน
และนิทานอีสปหลายเรื่อง สำหรับชาวเอเชียตะวันออก เช่น ชาวจีน หรือชาวญี่ปุ่น
เชื่อว่า หมาจิ้งจอกแดงสามารถแปลงร่างเป็นปีศาจเพื่อหลอกลวงมนุษย์ได้ เช่น
ปีศาจจิ้งจอก, ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นต้น
3. หมาจิ้งจอกมาร์เบิ้ล (Marble Fox )
หมาจิ้งจอกมาร์เบิ้ล
นั้นจัดอยู่ในสปีชีส์เดียวกับ Red
Fox (หมาจิ้งจอกแดง)
นอกจากนี้สี-ลวดลายที่เพื่อนๆ เห็นนั้นไม่ได้เกิดมาจากธรรมชาติของพวกมัน
แต่เกิดมาจากการที่มนุษย์นั้นทำขึ้น ซึ่งมนุษย์นิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย
ขนเฟอร์! นั่นเอง
หมาจิ้งจอกมาร์เบิลเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่แยกออกมาจาก
Red Foxสีของพวกมันไม่ได้เป็นสีตามธรรมชาติเพราะเกิดจากการผสมพันธุ์เพื่อให้ได้สีนี้โดยนักวิทยาศาสตร์
หมาจิ้งจอกสีเทา
อาศัยอยู่ทางใต้ของอเมริกา-ทางตอนเหนือของแคนนาดา ( เวเนซุเอลาและโคลัมเบีย )
สิ่งที่โดดเด่นก็คือ สีขนที่มีสีผสมกันที่สวยงาม หางยางฟู
นอกจากนี้หมาจิ้งจอกสีเทายังสามารถปืนต้นไม้ได้เก่งอีกด้วย
พวกมันปรากฏมาตั้งแต่ยุคสมัยไพลโอซีนราว 5.332 ถึง 2.588 ล้านปีก่อน
ลักษณะตัวโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 76-112.5 เซนติเมตร
สีขนบริเวณหลังจะออกไปทางโทนสีเทา พวกมันเป็นนักล่าที่กินไม่เลือก
และสามารถล่าเหยื่อได้เพียงลำพัง
5. หมาจิ้งจอกสีเงิน (Silver Fox )
หมาจิ้งจอกสีเงิน มีสิ่งที่โดดเด่นแบบเห็นได้ชัด
คือ ขนฟูๆของมันที่สีจะออกไปทางสีเงิน-เทา บางตัวขนจะมีสีฟ้าเทาที่หาง
เมื่อก่อนจิ้งจอกสีเงินถือว่าเป็นสัตว์ที่มีมูลค่ามากตัวหนึ่งอีกด้วย
นอกจากนี้มันก็ยังถูกนำไปทำเครื่องนุ่งห่ม เครื่องแต่งกาย
เช่นในสมัยขุนนางในรัสเซีย,
ยุโรปตะวันตก และจีน
หมาจิ้งจอกสีเงินเป็นสุนัขจิ้งจอกที่จัดอยู่ในสปีชีส์เดียวกับสุนัขจิ้งจอกแดง
เพียงแต่มีสีขนที่แตกต่างกัน
ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตขนของสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นขนสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีราคาสูงพอตัว
แต่โชคยังดีที่ยังเหลืออาศัยอยู่ตามธรรมชาติบ้าง ในขณะที่อีกส่วนถูกเลี้ยงเอาไว้ในฟาร์ม
เพื่อนำขนของพวกมันไปขาย
6. หมาจิ้งจอกอาร์กติก (Arctic Fox )
หมาจิ้งจอกอาร์กติก (Arctic fox) หรือ
หมาจิ้งจอกขั้วโลก (Snowy fox) หรือหมาจิ้งจอกหิมะ (Polar fox) เป็นหมาจิ้งจอกขนาดเล็ก
อาศัยอยู่ทั่วไปในเขตชายผั่งมหาสมุทรอาร์กติกตลอดจนเขตทุนดราที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง
มีขนสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ช่วยให้ล่าเหยื่อได้ง่าย
และสามารถพรางตัวจากศัตรูได้ด้วย
หมาจิ้งจอกอาร์กติกจัดว่าเป็นสัตว์ที่สามารถปรับสภาพให้ดำรงอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวจัดได้ดีชนิดหนึ่ง
มีระบบการปรับอุณหภูมิ ที่สามารถควบคุมความร้อนในร่างกายได้ สามารถทนอยู่ได้ในที่
ๆ มีอุณหภูมิต่ำถึง -50 องศาเซลเซียสได้
หมาจิ้งจอกอาร์กติกจะมีใบหน้าที่สั้นกว่าหมาจิ้งจอกชนิดอื่น และมีใบหูที่เล็ก
ขนของมันฟูหนา เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน มันจะมีขนอยู่บริเวณอุ้งเท้าเพื่อช่วยให้เดิน
และวิ่งบนพื้นน้ำแข็งได้ในช่วงที่หิมะตกหนัก
หรือเกิดพายุหมาจิ้งจอกอาร์กติกจะขุดโพรงลึกลงไปใต้หิมะ
และขดตัวนอนโดยใช้หางของมันตวัดมาปิดตัวและหน้าไว้คล้ายคนห่มผ้าห่ม และเมื่อฤดูหนาวหมดลง หิมะเริ่มละลาย
ต้นไม้เริ่มผลิใบอ่อน หมาจิ้งจอกอาร์กติกเองก็มีการเปลี่ยนแปลง
ขนสีขาวของมันจะร่วงลง และมีขนสีเทาอมน้ำตาลขึ้นแทนและจะสั้นกว่าขนในฤดูหนาว
ทำให้ตัวมันดูเล็กลง และมีขนาดเท่าแมวบ้านเท่านั้น
ในขั้วโลกเหนือฤดูร้อนนั้นสั้นมาก และเมื่อฤดูหนาวกลับมา
จิ้งจอกขั้วโลกก็จะเปลี่ยนสีขนกลับไปเป็นขนสีขาวอีกครั้ง เป็นการบอกให้รู้ว่า
การต่อสู้กับความหนาวเย็นกำลังจะเริ่มต้นอีกครั้ง
7. Cross Fox
เป็นสุนัขจิ้งจอกที่แตกแขนง
แยกออกมาจากสายพันธุ์ Red
Fox (หมาจิ้งจอกแดง) ส่วนใหญ่พบเห็นได้ทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา
โครงสร้างร่างกายสุนัขจิ้งจอกข้ามเป็นเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกสีแดงแม้ว่าตาม
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งยูทาห์ Teancum ของพวกเขาอาจจะใหญ่กว่าเล็กน้อยด้วยหาง bushier และขนใต้เท้า
สุนัขจิ้งจอกข้ามได้ชื่อมาจากแถบสีเข้มแนวตั้งที่วิ่งไปทางด้านหลังซึ่งตัดกันด้วยแถบแนวนอนอีกเส้นหนึ่งข้ามไหล่
ด้านหลังและด้านข้างเป็นสีเหลืองซึ่งมีความสดใสมากขึ้นบนด้านข้างและด้านข้างของลำคอ
ยกเว้นปากกระบอกปืนส่วนบนของหัวห้องหลังและด้านนอกของหัวไหล่และต้นขามีสีน้ำตาลอมเทาด้านล่างและด้านนอกสีดำ
ปีกและด้านข้างของลำคอมีสีเหลืองแดงในขณะที่ปากกระบอกปืนหูและอันเดอร์พาร์ทของขาเป็นสีดำ
ขนยาวของหางเป็นสีเทาหรือแดงอมเหลืองพร้อมด้วยปลายดำแม้ว่าปลายหางจะเป็นสีขาวเสมอ พวกมันแตกต่างจากสุนัขจิ้งจอก
"ลูกนอกสมรส" (ซึ่งมักเป็นผลมาจากการผสมพันธุ์ของสุนัขจิ้งจอกสีแดง /
เงิน) โดยแถบหลังซึ่งเป็นสีดำแทนที่จะเป็นสีแดงเข้ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น